top of page
FACELABS HYPERSENTIVE SKIN ผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ

HYPERSENSITIVE SKIN: ผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่าย

           ลักษณะของผิวแพ้ง่ายนั้น อาจมีลักษณะของผิวผื่นแดงร่วมด้วย และอาจเป็นได้ในผิวแห้งและผิวมัน จึงค่อนข้างยากในการวินิจฉัยสภาพผิว
          ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผิวมีสภาพแพ้ง่ายนั้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ แม้แต่ในงานวิจัยต่างๆ ก็ตาม
          แต่อย่างไรก็ดี "ผิวแพ้ง่าย" นั้น มักจะมีปฎิกิริยาตอบสนองต่อสารหรือส่วนผสมบางชนิดไวกว่าผิวประเภทอื่น ซึ่งหากเจอสารเคมีหรือส่วนผสมที่มีฤทธิ์รุนแรงต่อผิวแล้วละก็...! อาจจะเกิดอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย ทำให้ผิวมีอาการแดง เกิดผื่นแพ้ หรือสิวผดตามมาได้ 

          ผิวจะมีปฏิกิริยาแพ้ก็ต่อเมื่อผิวหนังชั้นกำพร้าถูกทำลาย และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีฤทธิ์แรงนั้นแทรกซึมผ่านลงไปที่ชั้นใต้ผิว ในระดับที่ลึกกว่า หรือที่ชั้นหนังแท้ โดยตามปกติแล้วผิวจะมีส่วนประกอบของเคมีในตัวเอง แบคทีเรีย หรือสารกระตุ้น การสร้างแอนติบอดี้ อาจเกิดปฏิกิริยาส่วนประกอบทางเคมีในผลิตภัณฑ์นั้น และเป็นเหตุให้เกิดการแพ้สารเคมีนั้นขึ้น 

          ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดการแพ้สารเคมีบางตัวได้สำหรับผิวของบางคน ในขณะที่บางคนกลับไม่มีอาการแพ้ใดๆ เนื่องจากองค์ประกอบทางเคมีในร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป

         สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเคมีในร่างกายของแต่ละคนเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีต่อผิว หลังจากนั้นก็ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยากับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้เกิดการอาการระคายเคืองผิว และอาการแพ้ตามมา

         สภาพผิวแพ้ง่ายจะมีลักษณะอาการชัดเจนต่อเมื่อสัมผัสกับสิ่งเร้าที่มากระตุ้นให้เกิดการแพ้ จะมีอาการผิวแดง คัน ไหม้ และในกรณีที่รุนแรงอาจมีตุ่มหนองเล็กๆ ร่วมด้วย บางทีอาจถึงขั้นเป็นลมพิษได้

วิธีใช้เครื่องสำอางอย่างปลอดภัย สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

  1. เริ่มทดสอบการใช้เครื่องสำอางทีละอย่างก่อน แม้ว่าตอนที่เลือกซื้อมาจะมีหลายชนิดก็ตาม ลองทดสอบดูก่อนการใช้จริงบริเวณท้องแขนหรือข้อมือ อย่างน้อย 2-3 วัน

  2. ถ้าหากไม่มีอาการระคายเคืองหรือผื่นแดง ค่อยเริ่มทดสอบการใช้ชิ้นที่สองต่อ อีกประมาณ 2-3 วัน

  3. ถ้าหากใช้แล้วมีผื่นแดง คัน ให้สังเกตว่าเริ่มมีผื่นแดงเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นใด และควรหยุดใช้ทันที แล้วรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

การทดสอบผื่นแพ้สัมผัส (Patch Test)
         "Patch Test" เป็นวิธีการทดสอบอาการแพ้สารเคมีที่ทำให้เกิดผื่นแพ้ผิวหนัง จากการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม ครีมทาผิว เสื้อผ้า โลหะ เครื่องประดับ เกสรดอกไม้ แมลง ฝุ่นควัน มลภาวะต่างๆ ฯลฯ
          ซึ่งหากเราสงสัยว่าแพ้สารตัวใดก็สามารถนำมาทดสอบได้ โดยเจ้าหน้าที่ทดสอบจะนำสารที่ผู้มีอาการแพ้นำมารวมกับสารที่แพทย์เลือกอีกชนิดที่คาดว่าจะสัมพันธ์กับอาการผื่นแพ้ ซึ่งเป็นสารที่เราสัมผัสบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเป็นสารประกอบหลักในเครื่องสำอางที่มีความเข้มข้นเหมาะสมสำหรับการทดสอบ โดยไม่มีผลข้างเคียง
          การทดสอบนั้นเริ่มด้วยการหยอดสารลงในแผ่นหลุมอลูมิเนียม (Finn Chamber) และแปะพลาสเตอร์ที่แผ่นหลังส่วนบน เพราะเป็นส่วนที่มีปฏิกิริยาต่อการแพ้ได้ไวมากที่สุด พยายามรักษาบริเวณที่ทดสอบให้แห้ง หลังจาก 48 ชั่วโมง จึงดึงเทปทดสอบออก สามารถล้างออกด้วยน้ำได้ แต่ยังไม่ควรฟอกสบู่บริเวณนี้ได้รับการทดสอบ หลังจากนั้นไปพบแพทย์เพื่ออ่านผลอีกครั้ง หากบริเวณนั้นมีอาการแพ้จะมีผื่นแดง คัน อย่างไรก็ตามผื่นเหล่านี้อาจเกิดจากการระคายเคืองได้ ซึ่งหากเกิดอาการแพ้รุนแรง แพทย์จะทำการรักษาให้หายต่อไป

         สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าแพ้เครื่องสำอางหรือไม่ สามารถลองทดสอบด้วยตนเองก่อนได้ง่ายๆ ด้วยวิธี Open Test โดยการทาผลิตภัณฑ์ที่ท้องแขนทุกเช้าและเย็น หลังอาบน้ำ หากเกิดผื่นขึ้นภายใน 7-10 วัน ควรกลับมาพบแพทย์ เพราะแสดงว่ามีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้

จะเลือกผลิตภัณฑ์อย่างไร
         โดยปกติเครื่องสำอางจะมีค่ามาตรฐานของส่วนผสมแต่ละชนิด และส่วนใหญ่จะมีการทดสอบอาการแพ้ก่อน ซึ่งอาจจะทดสอบในทุกขั้นตอนการผลิต หรือทดสอบเฉพาะสารพื้นฐานบางชนิดที่มีความเสี่ยงต่ออาการแพ้ระคายเคือง (Dermatological Test) ดังนั้น ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากสีและกลิ่น จะปลอดภัยกับผิวมากกว่า หรือสังเกตที่ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อ "ผิวบอบบางแพ้ง่าย" (FOR SENSITIVE SKIN)

PRODUCT FOR HYPERSENSITIVE SKIN

FACELABS HYPERSENTIVE SKIN ผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
DRY SKIN ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย
 FACELABS NORMAL SKIN ผิวธรรมดา ผิวแพ้ง่าย
FACELABS OILY SKIN ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย
bottom of page